เข้าสู่ช่วงปลายปี2023 กันแล้ว ปีนี้แรบบิทส์ เทลได้สรุปผลงานที่สร้างสรรค์มารวบรวมให้ทุกคนได้อ่านกัน ซึ่งผลงานในปีนี้ก็มีหลากหลายทั้งการทำแคมเปญโฆษณา การเก็บข้อมูลเพื่อทำ CRM และการออกแบบเว็บไซต์ โดยครั้งนี้ขอหยิบผลงานทั้งหมดมาเล่า เริ่มกันเลย!
1. OATSIDE SOS
OATSIDE นมโอ๊ตสุดฮอตฮิตที่ต้องขยายฐานลูกค้าในวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิมผ่านการดึง Brand DNA ออกมาใช้ในการสื่อสารว่า “OATSIDE จะเป็นนมที่อร่อยที่สุดในโลก” แต่การสื่อสารกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะช่วงต้นปี 2566 ที่เริ่มทำโปรเจ็กต์นี้ ได้มีประกาศกฏข้อห้ามโฆษณาเกินจริง ซึ่งคำว่า “ที่สุด” จะถือเป็นคำที่ห้ามใช้ หากมีการฝ่าฝืนจะถูกระงับการโฆษณา และอาจจะได้รับโทษทั้งจำและปรับ เมื่อแบรนด์ถูกจำกัด ไม่สามารถพิสูจน์เองได้จึงวางแผนให้ผู้บริโภคมาพูดแทน ผ่านการโพสต์ขอความช่วยเหลือจากลูกค้า ให้ทุกคนช่วยคอมเมนต์กันว่านม OATSIDE อร่อยแค่ไหน เกิดเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และคอมเมนต์เหล่านี้จะถูกคัดเลือกไปจัดทำบิลบอร์ดตามที่ต่างๆ รอบกรุงเทพฯ โดยสรุป กิจกรรมนี้ได้อาศัยฐานแฟนมาช่วยพูดแทนแบรนด์ หลีกเลี่ยงข้อจำกัดของการสื่อสาร สร้างกระแสในโซเชียล และเชื่อมโยงจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสนุกกันทั้งแบรนด์และแฟนอย่างเต็มที่ไปเลย
2. Robinhood: โค้ดส่วนเลิฟ
ทุกวันนี้ความรวดเร็วเป็นสิ่งที่ทุกคนมองหา ทําให้ทุกอย่างรวมถึงการสั่งอาหาร Delivery สามารถทําได้ง่ายๆ ผ่านมือถือ แต่อาจจะทำให้หลายคนสัมผัสกับกับรอยยิ้ม ความอบอุ่น ผ่านคำพูดทักทายจากพี่ๆ ร้านอาหารได้น้อยลง ดังนั้น ทาง Robinhood แบรนด์ที่เชื่อมต่อระหว่างพี่ๆ ร้านอาหารกับลูกค้าทุกคน จึงได้จับมือกับร้านอาหาร เปลี่ยนประโยคทักทายจากคุณลุงคุณป้าที่ลูกค้าทุกคนพบเจอบ่อยๆ อย่าง “กินไรจ๊ะสุดหล่อ” หรือ “ไม่สั่งจะเสียใจ” ให้กลายเป็นโค้ดส่วนลดที่เป็นมากกว่าส่วนลดธรรมดา เกิดเป็น “โค้ดส่วนเลิฟ” ข้อความที่มาจากใจของร้านอาหารต่างๆ โดยลูกค้าใหม่ของ Robinhood จะได้รับส่วนลด 100 บาทในครั้งแรกที่สั่งอาหารผ่าน Application Robinhood นอกจากจะได้ส่วนลดไปแล้ว ยังได้รอยยิ้มและความใส่ใจ เหมือนได้ไปที่หน้าร้านจริงๆ
3. GQ: Smell Kick
“กลิ่นเท้า” คือปัญหาระดับชาติของชายไทย แบรนด์นวัตกรรมเสื้อผ้าอย่าง GQ Apparel จึงคิดค้นและออกแบบผลิตภัณฑ์ถุงเท้าที่มีคุณสมบัติช่วยระงับกลิ่นได้ โดยสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ว่า กลิ่นเท้าเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิต ด้วยการเล่าผ่านโฆษณาสั้น 6 เรื่อง จาก 6 สถานการณ์ที่ขยี้ถึงผลกระทบทั้งเรื่องภาพลักษณ์ หน้าที่การงาน บรรยากาศ มิตรภาพ ไปจนถึงความสัมพันธ์ โดยใช้เล่าเรื่องปัญหาของกลิ่นให้ออกมาแรงทะลุจอ
4. FOOD FOR GOOD: Recommended Menu
FOOD FOR GOOD ต้องการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับปัญหาทุพโภชนาการและรณรงค์ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการบริจาคให้กับองค์กร FOOD FOR GOOD เพื่อให้องค์กรนำเงินไปเติมเต็มโภชนาการในมื้อกลางวันของของเด็กไทยให้ครบถ้วน โดยได้วางแผนสื่อสารการตลาดผ่านตัวแคมเปญที่มีชื่อว่า “Recommended Menu” เมนูที่ไม่ได้แนะนำให้คุณกิน แต่อยากให้คุณช่วยแก้ โดยนำร้านอาหารชื่อดังต่างๆ ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี เช่น ร้านเจ๊โอว ร้านเสวย ร้านเอ๋ซีฟู้ด ฯลฯ มาร่วมแคมเปญด้วยการดัดแปลงเมนูแนะนำต่างๆ ถอดส่วนประกอบอาหารที่สำคัญออกไป โดยเฉพาะโปรตีน เพื่อเป็นสัญลักษณ์เหมือนกับที่เด็กไทยขาดแคลนโภชนาการที่ดีจากมื้ออาหาร ผ่านการทำภาพ Key Visual โดยมี QR Code สำหรับบริจาคเพื่อโครงการ FOOD FOR GOOD ทำให้คนที่เห็นสามารถรับรู้ เข้าใจ และร่วมบริจาคได้ทันที
5. SRICHAND Skin Moisture Burst Gel Cream: ครีมที่เธอต้องมี
หากพูดถึงแบรนด์ศรีจันทร์ เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จักเป็นอย่างดี ศรีจันทร์ในวันนี้ต้องการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “SRICHAND Skin Moisture Burst Gel Cream” โดยสื่อสารว่าศรีจันทร์ไม่ได้ทำแป้งเพื่อเสริมเติมแต่งความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยดูแลผิวตั้งแต่พื้นฐานเลย การทาครีมที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญมากต่อผิวหน้า และเป็นสิ่งที่ต้องมี เกิดเป็นไอเดียว่าครีมของศรีจันทร์นี้เป็น #ครีมที่เธอต้องมี เพื่อสื่อสารให้ผู้หญิงไทยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ โดยหนังโฆษณานี้มีความแตกต่างกับหนังโฆษณาสกินแคร์ทั่วไปเพราะเป็นการเน้นสถานการณ์จริงต่างๆ ในชีวิตของผู้หญิง ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ว่า ศรีจันทร์พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและเข้าใจผู้หญิงไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม
6. Supalai: Standard ดี Quality เดียวกัน
ศุภาลัย ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มคนทุกภูมิภาคกว่า 300 โครงการ ทำให้แบรนด์ต้องการสร้างความเชื่อมั่นกับคนไทยทั้งประเทศ ให้เห็นว่าบ้านของศุภาลัยไม่ว่าจะอยู่ภูมิภาคไหน ก็มีคุณภาพที่ดี และมีมาตรฐานเดียวกันทุกหลังทั่วไทย โดยในการโฆษณาชิ้นนี้ได้ โบว์ เมลดา มาเป็นพรีเซนเตอร์พร้อมนำเสนอมาตรฐานต่างๆ ของศุภาลัยด้วยภาษาท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาค เพื่อพิสูจน์ว่า จะอาศัยอยู่ภูมิภาคไหน มีชีวิตอย่างไร แตกต่างกันแบบไหน ทุกคนก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ภายใต้ Standard ดี Quality เดียวกันทุกหลังทั่วประเทศได้
7. flo Wolffia: The Super Food
โฟล วูฟเฟีย พืชดอกที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกแต่มีคุณประโยชน์สูง ต้องการจะสื่อสารให้ผู้บริโภคไทยได้รู้จักกับประโยชน์ที่อุดมไปด้วยคุณค่าโภชนาการปลอดสารเคมี เป็นพืชจิ๋วแต่มีพลังแข็งแกร่งเป็น Super Food ผ่านการทำ Always On Content ให้คนได้รู้จักและเข้าใจถึงที่มาของพืชชนิดนี้ พร้อมทั้งนำเสนอความน่าสนใจเพราะเป็นพืชที่ทานง่าย สามารถดูดซึมนำไปใช้ได้จริง
8. The Demis Clinic: ความสุขของคุณคือรางวัลของเรา
The Demis Clinic สถาบันความงามที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ต้องการเสริมสร้างภาพลักษณ์ต่อกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายยิ่งขึ้น ผ่านไอเดีย #ความสุขของคุณคือรางวัลของเรา ผ่านโฆษณาและ Key Visual เพื่อแสดงว่า The Demis Clinic ใส่ใจในทุกใบหน้าและทุกขั้นตอน จึงทำให้มั่นใจได้ว่า การเข้ามาใช้บริการจะตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย อย่างแท้จริง
9. Eversense: มั่น Shine ได้ทุกยก
Eversense ยังมุ่งมั่นทำการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภค Gen Z อย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญ “มั่น Shine ได้ทุกยก” กับผลิตภัณฑ์เอเวอร์เซ้นส์ ซุปเปอร์ ไวท์เทนนิ่ง โรลออน โดยเน้นให้เห็นถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ใต้วงแขนขาวขึ้นภายใน 5 วัน และป้องกันกลิ่นกาย เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนมั่นใจในทุกกิจกรรม โดยสื่อสารทั้งรูปแบบโฆษณาและ Key Visual เพื่อโปรโมทในสื่อออนไลน์
10. TROS: โค้ดเท่…เสน่ห์เกินเรื่อง
ในโอกาสที่ TROS ต้องการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งโรลออน สเปรย์น้ำหอม และเจลอาบน้ำ ภายใต้ “Black Code Series” โดยชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์คือการใช้เทคโนโลยี AI มาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดสำหรับผู้ชาย ผ่านแคมเปญ “TROS โค้ดเท่เสน่ห์เกินเรื่อง” สะท้อนการเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมของแบรนด์ โดยสื่อสารทั้งรูปแบบหนังโฆษณา, Key Visual และคอนเทนต์ออนไลน์
11. Vistra: Loyalty Program on LINE Platform
วิสทร้า แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพต้องการจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์ทางการตลาด จึงพัฒนาโปรแกรมสะสมคะแนนผ่าน LINE Official โดยร่วมมือกับ Buzzebees พาร์ทเนอร์ที่ให้บริการด้าน CRM จัดเก็บข้อมูลของลูกค้าผ่านกิจกรรมที่ให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมส่งรหัสที่ได้จากผลิตภัณฑ์ โดยข้อมูลจากลูกค้าทำให้แบรนด์สามารถติดตามพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้ และสื่อสารการตลาดกับลูกค้าแต่ละคนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
12. Assetwise: Main Website
Assetwise ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยต้องการปรับปรุงเว็บไซต์หลักของบริษัท เพื่อปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ และสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพทางการขาย โดยออกแบบระบบที่ช่วยให้สร้างโครงการใหม่ๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว รองรับการเพิ่มโครงการในอนาคต พร้อมทั้งเชื่อมต่อข้อมูลลูกค้าจากเว็บไซต์ไปยังทีมขายกลาง เพื่อให้สามารถจัดสรรโครงการได้ง่ายมากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงผลงานครึ่งแรกของแรบบิทส์ เทล ยังมีผลงานต่างๆ อีกมากมายที่ทีมแรบบิทมุ่งมั่นตั้งใจสร้างสรรค์ ไปดูสรุปผลงานแรบบิทส์ เทล 2023 พาร์ทสองเพิ่มเติมได้เลย